การสื่อสารด้วยแสงที่มองเห็น
Visible
Light Communication
ปัจจุบันการสื่อสารข้อมูลด้วยคลื่นย่านความถี่วิทยุ
(Radio frequency: RF) จะค่อยข้างมีข้อจำกัดสูง อาทิเช่น
แบนด์วิดท์แคบ ความปลอดภัยน้อย สัญญาณรบกวนสูง เป็นต้น
นอกจากการสื่อสารในย่านความถี่แล้วยังมี ย่านความถี่อื่นๆ อีก เช่น ย่านความถี่อินฟราเรด
ย่านความถี่เอ็กซเรย์ ย่านความถี่ไมโครเวฟ ย่านความถี่เรดาร์ เป็นต้น
และที่ย่านความถี่แสงที่มองเห็นมีแนวความคิดที่ใช้ แสงเป็นตัวกลางของการสื่อสารข้อมูลได้กำเนิดมาตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1880 โดยแกรแฮม เบลและผู้ช่วย ใช้เทคเฮโลกราฟ (Alexander
Graham Bell and Charles Sumner-Tainter in 1880) ทำการมอดูเลทสัญญาณเสียงกับลำแสง
สร้างเป็นเครื่องโทรศัพท์ที่ สื่อสารด้วยแสง รหัสมอร์ส (Mores code) เป็นการส่งรหัสมอร์สด้วยแสงใช้ในการสื่อสาร การเดินเรือ เป็นต้น
การสื่อสารด้วย แสงที่มองเห็นเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกนำมาใช้เป็นช่องทางของการสื่อสารข้อมูลแบบต่างๆ
โดยใช้แสงที่มองเห็น ซึ่งแสงที่กล่าวถึง เป็นแสงจากหลอดแอลอีดีสีขาว (White
LEDs) ในอนาคตหลอดแอลอีดีจะถูกใช้เป็นหลอดไฟให้แสงสว่าง และจะถูกนำมาแทน
หลอดไฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
หลอดแอลอีดีไม่เพียงให้แสงสว่างแต่สามารถส่งข้อมูลได้อีกด้วย ได้มีการประยุกต์ใช้งานหลอดแอลอีดีทั้ง
ให้ความสว่างและส่งข้อมูลด้วยพร้อมๆ กัน ที่ภายในห้องทำงานสำนักงาน ห้องภายในอาคาร
บ้าน ภายในเครื่องบิน โรงพยาบาล ใช้ในงานจราจร
เป็นต้น การสื่อสารด้วยแสงที่มองเห็น (visible light communication) ถูกพัฒนามาจากการสื่อสารแบบอินฟราเรด (Wireless infrared
communication) พบมากในอุปกรณ์จำพวกรีโมท (remote control) เนื่องจากข้อจำกัดของแสงอินฟราเรดที่ กำลังส่งสูงๆ แสงอินฟราเรดจะอันตรายต่อตาของมนุษย์ได้การสื่อสารด้วยแสงที่มองเห็นจึงถูกพัฒนาต่อ
ภาพที่
1: การสื่อสารด้วยแสงครั้งแรกด้วย Heliograph โดยแกรแฮม เบลกับผู้ช่วย
ปัจจุบันการประหยัดพลังงานเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน
การทำงาน การดำเนินธุรกิจ และด้านอุตสาหกรรมที่ จำเป็นต้องใช้พลังงาน ต้องคำนึงสิ่งที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานเป็นสิ่งสำคัญ
หลอดแอลอีดี(LED lamp) ที่สามารถให้ความสว่าง สูงพอๆ
กับหลอดฟูออเรสเซนต์ (fluorescent lamp) และหลอดไส้(incandescent
lamp) เมื่อนำมาแทนจะทำให้สามารถ ประหยัดพลังงานได้อย่างมาก
จากงานวิจัยพบว่าหลอดฟูออเรสเซนต์จะต้องใช้พลังงานเป็นสองเท่าของหลอดแอลอีดี แต่หลอด
แอลอีดีสามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่าและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกด้วย
ตัวอย่าง:การส่งรหัสมอร์สด้วยแสงใช้ในการเดินเรือ
ที่มา : http://pws.npru.ac.th/adisorn/data/files/VLC01.pdf